เปิดในหน้าต่างใหม่
ดาวน์โหลดรูปภาพ
หัวหน้าทีมตัดต่อ Geoffrey Richman (ซ้าย) ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Ben Stiller (ขวา) ซึ่งเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง ในตอนสุดท้ายของ Severance ซีซั่น 2 ซึ่งกลายเป็นจริงได้ด้วยขุมพลังของ Mac
นักสร้างสรรค์ 26 มีนาคม 2568
ในโลกจินตนาการของซีรีส์ Apple Original เรื่อง Severance ซึ่งมีบริษัท Lumon Industries ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีชีวภาพเป็นตัวดำเนินเรื่องที่สำคัญ การแยกโลกระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวสามารถทำได้ด้วยกระบวนการผ่าตัด แต่ถึงกระนั้น สำหรับพนักงานบางคนของบริษัทที่มีความล้ำหน้าระดับนี้ การตัดต่อวิดีโอยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายไม่ใช่น้อย และในตอนที่ 4 "เวิ้งทุกขตา" ของซีซั่น 2 เราก็ได้เห็นความพยายามในการตัดต่อแบบขอไปทีในวิดีโอที่เปิดต้อนรับแผนกคัดกรองข้อมูลมหภาคเข้าสู่ "กิจกรรมสร้างสัมพันธ์ในทีมและพักผ่อนหย่อนใจกลางแจ้ง" (Outdoor Retreat and Team Building Occurrence - ORTBO)
"ดูแล้วตลกมาก" Geoffrey Richman ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ตัดต่อซีรีส์เรื่องนี้ในชีวิตจริงและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Award มาแล้วสามครั้ง กล่าว "การใช้วิธีจัมพ์คัทและตัดต่อแบบติดๆ ขัดๆ ในวิดีโอ ORTBO ให้ความรู้สึกเหมือน Milchick [รับบทโดยโดย Tramell Tillman] และ Miss Huang (รับบทโดย Sarah Bock] มาช่วยกันตัดต่อวิดีโอแบบลวกๆ ในห้องหลังออฟฟิศ"
เรื่องนี้คงไม่เคยเกิดขึ้นกับ Richman เพราะเขาทำงานร่วมกับทีมงานอย่าง Ben Stiller ซึ่งเป็นกำกับและผู้อำนวยการสร้างอย่างใกล้ชิดจาก iMac ในห้องตัดต่อที่บ้านของตัวเองใน Park Slope ย่านบรุคลิน เพื่อสร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องดังที่ใครๆ ต่างยอมรับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานเรื่องราวหลากแนวหลายรสชาติเข้าด้วยกันและยังมีความโดดเด่นทั้งงานภาพและเสียง
ถึงแม้ว่า Milchick จะมีคลิปหนีบกระดาษให้ใช้นับไม่ถ้วนแถมด้วยเมลอนฉลองความสำเร็จแบบไม่อั้น แต่รับรองว่าเขาไม่มีชุดอุปกรณ์ที่ใช้ขุมพลังของ Mac อย่างที่ Richman ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดต่อผลงานชั้นเยี่ยมแน่นอน เขาใช้ Mac หลายเครื่องร่วมกันเป็นอีโคซิสเต็ม ทั้ง iMac, Mac mini และ MacBook Pro ซึ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในตอนสุดท้ายของซีซั่น 2 ที่ชื่อ "โคลด์ฮาร์เบอร์" และพูดได้ว่าเป็นตอนที่มีความท้าทายมากที่สุดตอนหนึ่งในการตัดต่อสำหรับ Richman
"สำหรับตอนสุดท้าย มีการทดลองหลายอย่างมากในเรื่องของโครงสร้างและมีการทดสอบไอเดียต่างๆ ว่าจะเล่นแต่ละซีนที่แตกต่างกันออกมาอย่างไร" Richman กล่าว "มีไอเดียผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลาและ Mac ที่ผมใช้ก็ช่วยให้ประสบการณ์การทำงานลื่นไหล"
"ตอนที่ตัดต่อฉากวงโยธวาธิต มีถึงประมาณ 70 มุมกล้องและเทคให้เลือก เราจึงซิงค์ทุกอย่างมาอยู่ในคลิปแบบมัลติแคมคลิปเดียวโดยที่แต่ละแบงก์ประกอบด้วย 9 มุมกล้อง [อาร์เรย์แบบ 3x3]" เขาอธิบายต่อ "การที่เราเล่น 9 มุมกล้องไปพร้อมกันได้ในแบบเรียลไทม์ และสลับไปมาระหว่างแต่ละตัวเลือกได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การค้นหาสิ่งที่เราต้องการไม่ว่าจะในช่วงเวลาไหนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก"
สิ่งเดียวที่ Richman พอจะเข้าใจได้เกี่ยวกับทีมงานของ Lumon น่าจะเป็นการที่เขาต้องลงไปหนึ่งชั้นเพื่อทำงานในแต่ละวัน เหมือนอย่างที่ Mark Scout ตัวละครหลักของเรื่อง ซึ่งรับบทโดย Adam Scott ทำ และในชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์นั้น Richman จะทำงานตัดต่อบน iMac ซึ่งเชื่อมต่อแบบรีโมทกับ Mac mini อีกเครื่อง โดยที่ Mac mini เครื่องนั้นรัน Avid ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม จากอาคารโพสต์โปรดักชั่นในย่านเวสต์วิลเลจของแมนแฮตตัน
ภาพนิ่งจากซีนวงโยธวาทิตในตอนสุดท้ายของ Severance ซีซั่น 2 ที่ชื่อ "โคลด์ฮาร์เบอร์"
สำหรับตอนสุดท้ายของซีซั่น 2 (ในภาพ) Geoffrey Richman กล่าวว่ามีการทดลองหลายอย่างมากในเรื่องโครงสร้าง "มีไอเดียผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลาและ Mac ที่ผมใช้ก็ช่วยให้ประสบการณ์การทำงานลื่นไหล"
นี่คือชุดอุปกรณ์ที่คุ้นเคยสำหรับ Richman ซึ่งบอกกับเราว่างานตัดต่อส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดของเขาทำบน Mac "ผมชอบอินเทอร์เฟซบน Mac มากกว่าบน PC เยอะ" เขากล่าว "ผมคิดว่าการจัดวางองค์ประกอบของระบบปฏิบัติการให้ความรู้สึกที่สบายกว่ากันมาก และผมสามารถสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ ได้เร็วมากบน Mac
การจัดอุปกรณ์แบบนี้ยังเหมาะสำหรับงานที่อาจไม่สามารถนั่งทำที่โต๊ะรวดเดียวจบได้เสมอไปด้วย เพราะถึงแม้ว่า Richman รวมถึงทีมนักตัดต่อที่เหลือของซีรีส์เรื่องนี้ จะทำงานแบบรีโมท แต่บางครั้งเขาก็ยังต้องเดินทางไปที่กองถ่าย ซึ่งมีห้องตัดต่อพร้อม iMac อยู่ และเขายังนำ MacBook Pro ติดตัวไปกองถ่ายด้วยเพื่อให้สามารถเข้าถึงงานตัดต่อและใช้อ้างอิงขณะอยู่นอกสถานที่ได้ง่ายเมื่อจำเป็น
"ผมสามารถทำงานบนแล็ปท็อป และทำงานบน iMac และทำงานที่อาคารโพสต์โปรดักชั่น หรือทำงานที่ออฟฟิศของ Ben ก็ได้ตราบใดที่ผมล็อกอินเข้าบัญชีตัวเอง ทุกอย่างที่ผมทำก็จะแสดงขึ้นมาในทุกๆ ที่" Richman กล่าวถึงความชื่นชอบที่เขามีต่อการแชร์ข้อมูลและการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อด้วย iCloud และคุณสมบัติความต่อเนื่อง "บางทีตอนผมนอนอยู่และคิดอะไรดีๆ ออก ผมก็จะพิมพ์ลงใน iPhone แล้ววันรุ่นขึ้นสิ่งที่พิมพ์ไว้ก็จะไปอยู่ในแอปโน้ตบนเดสก์ท็อป และเรื่องนี้ของ Mac ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เวลาที่เราไม่ต้องคอยคิดว่าตัวเราจริงๆ กำลังใช้ระบบไหนอยู่"
ระหว่างที่ตัดต่อตอน "เวิ้งทุกขตา" Richman อาศัยจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพและความสะดวกในการพกพา รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่งของ MacBook Pro เมื่อต้องเดินทางไปหา Ben Stiller ในเขต Minnewaska State Park Preserve ที่มีหิมะปกคลุมทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำตอนดังกล่าว และ Richman ยังชื่นชอบที่ MacBook Pro มีหลายพอร์ตให้เลือกใช้ รวมถึง HDMI ซึ่งสำคัญสำหรับการทำงานตัดต่อร่วมกัน
"ผมสามารถเดินทางไปที่ที่ Ben พักอยู่ ก่อนจะเสียบ MacBook Pro เข้ากับทีวี แล้วเราก็นั่งตัดต่อกันตรงนั้นจากบนแล็ปท็อปได้เลย" เขากล่าว
Geoffrey Richman และ Ben Stiller ขณะกำลังดูตอนสุดท้ายของ "Severance" ซีซั่น 2 บนทีวีจอใหญ่
Geoffrey Richman และ Ben Stiller มักจะตรวจดูงานตัดต่อด้วยกันบนหน้าจอขนาดใหญ่โดยใช้ AirPlay หรือสาย HDMI และ Richman ชื่นชอบ MacBook Pro ที่มีหลายพอร์ต ซึ่งรวมถึงพอร์ต HDMI
นอกจากนี้ Richman ยังชื่นชอบการทำงานแบบมัลติทาสก์ที่เป็นเรื่องง่ายบน Mac "ผมชอบเปิดทุกอย่างที่ผมใช้ตลอดทั้งวันตลอดเวลา" เขากล่าว "ไหนจะต้องรัน Avid แล้วยังต้องเปิดแอปโน้ต, Slack, เมล, ข้อความ, ปฏิทิน และ Safari ด้วย ผมเปิดแอปพวกนี้ให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ชอบตรงที่สามารถใช้ปุ่มลัดเพื่อเรียก Mission Control ขึ้นมาสลับไปมาระหว่างแต่ละแอปได้"
การทำงานแบบมัลติทาสก์เป็นองค์ประกอบสำคัญในงานของ Richman เนื่องจากบางครั้งเขาต้องทำงานร่วมกับ Ben Stiller ในซีนใดซีนหนึ่ง อย่างในซีนกระท่อมคลอดของตอนจบซีซั่น 2 ก่อนที่จะนำทุกอย่างมาประกอบเข้าด้วยกัน
"ทันทีที่ผมตัดต่อซีนไหนเสร็จผมก็จะส่งซีนนั้นไปให้ Ben ดูว่าเขาคิดยังไงตั้งแต่เนิ่นๆ" Richman กล่าว "จากนั้นเขาก็จะส่งโน้ตกลับมาในอีเมล หรือไม่เราก็จะคุยกันทางโทรศัพท์ แล้วผมก็สามารถกลับไปตัดต่อซีนนั้นอีกรอบได้โดยที่ไม่ต้องรอตัดต่อทั้งตอนจนเสร็จก่อน วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราเดินไปในทิศทางเดียวกันเสมอ"
การแต่งดนตรีประกอบของแต่ละตอนยังทำไปพร้อมกับการตัดต่อด้วย โดย Richman มักจะคุยกับ Theodore Shapiro ซึ่งเป็นผู้แต่งดนตรีประกอบซีรีส์เรื่องนี้ ระหว่างการตัดต่อ และหาก Shapiro ส่งคิวดนตรีมาหลังจากที่เขาเลิกงานแล้ว Richman ก็มักจะตื่นเต้นและอดใจรอไปฟังวันรุ่งขึ้นไม่ไหวจนต้องเปิดฟังทันทีจาก MacBook Pro หรือ iPhone โดยใช้ AirPods Pro 2
"ดนตรีมีส่วนสำคัญมากในการยกระดับซีรีส์เรื่องนี้" Richman กล่าว "คุณสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ของซีนหนึ่งให้มีความดาร์คขึ้นได้โดยใช้ดนตรีล้วนๆ และถึงแม้ว่าทุกอย่างเกี่ยวกับซีนนั้นจะค่อนข้างดูผ่อนคลายเมื่อไม่มีดนตรี แต่ดนตรีสามารถพาคุณไปสัมผัสกับความรู้สึกของตัวละครในขณะนั้นซึ่งแตกต่างจากภาพที่คุณเห็นบนหน้าจอ"
Geoffrey Richman ตัดต่อซีนวงโยธวาทิตในตอนสุดท้ายของ Severance ซีซั่น 2 ที่ชื่อ "โคลด์ฮาร์เบอร์"
ขณะตัดต่อซีนวงโยธวาทิตในตอนสุดท้ายของซีซั่น Richman อาศัยโปรเซสเซอร์ที่รวดเร็วบน Mac เพื่อซิงค์และรีวิวมุมกล้องและเทคราวๆ 70 มุมในแบบเรียลไทม์
Shapiro แต่งเพลงสำหรับวงโยธวาทิตสองเพลงที่ใช้ในตอนสุดท้ายของซีซั่น ซึ่งเป็นตอนที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันขั้นสุดในทุกรายละเอียดระหว่างการตัดต่อ Richman ซึ่งทำงานบน iMac ต้องคอยดูว่าเครื่องดนตรีในกล้องซิงค์ตรงกับเพลงตลอดเวลา ในขณะที่พยายามเนรมิตหนึ่งในซีนที่มีความพิลึกพิลั่นและตึงเครียดที่สุดของซีซั่นนี้ การจัดวางฟุตเทจของวงโยธวาทิตเพียงอย่างเดียวใช้เวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ และยิ่งมีหลายมุมกล้องให้เลือกในทุกๆ จังหวะด้วยแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ในการตัดต่อซีนนี้มากมายหลายร้อยแบบ
"นี่แหละคือซีนที่ผมต้องจดโน้ตบน iPhone และเพื่อให้มองเห็นมุมมองที่แตกต่างออกไป ผมก็จะไปนั่งร่างไอเดียบนโซฟาหรือบนเตียงโดยใช้ MacBook Pro ก่อนจะนำไอเดียนั้นกลับไปทำต่อบน iMac" เขากล่าว
สำหรับผู้ชมแล้ว ตอนจบมีการเดิมพันที่สูงกว่า ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ในเชิงลึกเกี่ยวกับการทำงานอันลึกลับของคนในที่ Lumon และน่าจะทำให้ผู้ชมเห็นภาพวงโยธวาทิตในมุมของการเป็นตัวป่วนด้วย ซึ่งสำหรับ Richman แล้ว ตอนสุดท้ายนี้เป็นทั้งอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่และรางวัลที่มีค่าในเวลาเดียวกัน
"จริงอยู่ที่ซีนวงโยธวาทิตเป็นอะไรที่ท้าทายสุดๆ" เขากล่าว "แต่ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะในตอนสุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าเราจะต้องทำงานหนักมากในเรื่องโครงสร้าง แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ "เรียกว่ามีความท้าทาย แต่ก็ชวนให้อิ่มใจมากๆ และสนุกที่ได้ทำ"
Severance ซีซั่น 2 พร้อมให้สตรีมแล้ววันนี้ทาง Apple TV+ นอกจากนี้ยังสามารถดู Geoffrey Richman, Ben Stiller และทีมตัดต่อคนอื่นๆ ของ Severance มาพูดคุยเกี่ยวกับเบื้องหลังของตอนจบซีซั่น 2 ใน Behind the Mac ซึ่งรับชมได้แล้ววันนี้ทาง YouTube (คำเตือน: วิดีโอนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญจาก Severance ซีซั่น 2)
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

[email protected]